มั่นคงฯ ชวน พี่จูงน้อง ร่วมเรียนรู้งานศิลป์ผ่านเสียง ในโครงการ MK Sunday Together ครั้งที่ 12
ศิลปะ ถือเป็นการเรียนรู้ที่ไม่มีวันสิ้นสุด ทุกอย่างที่อยู่รอบกายเราล้วนเป็นศิลปะทั้งสิ้น เพียงแต่เราจะหยิบจับสิ่งเหล่านั้นมาทำให้เกิดศิลปะในรูปไหนเท่านั้นเอง บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โครงการ "ชวนชื่น" และ "สิรีนเฮ้าส์" พาน้องหนูตัวน้อยกว่า 80 คน เข้าร่วมกิจกรรมใน โครงการ MK Sunday Together ครั้งที่ 12 มุ่งหน้าสู่ สวนศิลป์บ้านดิน จ.ราชบุรี แหล่งเรียนรู้ในเรื่องราวของศิลปะที่ยังคงไว้ซึ่งความเป็นเอกลักษณ์ท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี งานนี้น้อง ๆ ได้เรียนรู้ตั้งแต่การปั้นเพื่อเกิดเสียง พร้อมร่วมเรียนรู้ และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการโชว์อังกะลุงที่ประสานเสียงกันได้อย่างเพราะจับใจทีเดียว
โครงการ MK Sunday Together ครั้งที่ 12 นี้ น้อง ๆ ได้เรียนรู้ตั้งแต่การเริ่มต้นประดิษฐ์นกหวีด การปั้นเพื่อให้นกหวีดนั้นเกิดเสียง พร้อมทั้งยังได้ลงมือละเลงสีตกแต่งนกหวีดในแบบฉบับเฉพาะตัวอีกด้วย นอกจากนั้นน้อง ๆ ยังได้ร่วมเรียนรู้การเล่นอังกะลุง โดยได้รับเกียรติจาก ครูนาย มานพ วีจำรัส เป็นผู้ฝึกสอน ให้น้อง ๆ ได้เรียนรู้ตั้งแต่ประโยชน์และคุณค่าของศิลปะ ศิลปะกับสมาธิ พร้อมทั้งเทคนิคต่าง ๆ ในการเล่นอังกะลุง เพราะอังกะลุง 1 ตัวจะมี 1 ตัวโน๊ตเท่านั้น งานนี้จึงทำให้น้องๆ ได้ร่วมมือกันบรรเลงเพลงจากอังกะลุงจำนวนทั้งหมด 84 ตัว ซึ่งเมื่อน้อง ๆ ได้ร่วมใจกันเล่น บวกกับสมาธิที่มี เพลงที่ออกมาจึงเป็นเพลงที่ไพเราะ และมีเพียงเพลงเดียวเท่านั้น
มารู้จักกับพี่น้องนักศิลปะคู่แรกกันดีกว่า เริ่มจากพี่ชายสุดหล่ออย่าง น้องซัน หรือ เด็กชายศักดิพัฒน์ ลิ้มวิจิตรสุข นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนอัสสัมชัญ ธนบุรี จูงน้องสาวน่ารักอย่าง น้องฟิ้นซ์ หรือ เด็กหญิงณัฐนรี ลิ้มวิจิตรสุข นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนอัสสัมชัญ ธนบุรี มาร่วมเรียนรู้ศิลปะที่ตัวเองชื่นชอบ พี่น้องคู่นี้หลงใหลการปั้นดิน และการระบายสีเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ พี่ซัน สนุกสนานกับการปั้นนกหวีดเป็นรูปรถถังที่ตัวเองชื่นชอบ เล่าอย่างสนุกสนานว่า
"สำหรับผมนอกจากการเล่นกีฬาแล้ว งานศิลปะก็เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่ช่วยคลายเครียดได้เป็นอย่างดีเลยครับ เพราะเมื่อไหร่ที่เราได้อยู่กับงานศิลปะ ก็เหมือนเราหลุดเข้าไปอยู่ในโลกแห่งจินตนาการเลยทีเดียว อย่างวันนี้ได้มาร่วมเล่นอังกะลุง ซึ่งครูนายบอกว่า อังกะลุง เป็นเครื่องดนตรีที่จะทำให้เกิดเป็นบทเพลงได้ต้องอาศัยทั้งสมาธิ และความสามัคคี ซึ่งก็เป็นจริงตามที่ครูว่าครับ เพราะเราไม่สามารถบรรเลงเพลงคนเดียวได้ต้องอาศัยความพร้อมเพรียงของเพื่อนๆ ซึ่งในที่สุดแล้วพวกเราก็สามารถร่วมกันบรรเลงบทเพลงออกมาได้ไพเราะอย่างไม่น่าเชื่อเลยทีเดียวครับ" หนุ่มซัน กล่าว
ทางด้านน้องสาวตัวน้อยอย่าง น้องฟิ้นซ์ ก็สนุกสนานกับการเรียนรู้ศิลปะ และงานปั้นไม่แพ้กัน โดย น้องฟิ้นซ์ กล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า "ฟิ้นซ์ชอบและรักงานศิลปะมากๆ ค่ะ วันนี้ได้มาปั้นดินก็ชอบมากเลยค่ะ เพราะเราได้ลงมือทำเองทุกขั้นตอนจะสนุกมาก และยิ่งได้ระบายสีบนนกหวีดดินตามแบบที่เราชอบก็ยิ่งสนุกใหญ่เลยคะ ปกติอยู่ที่บ้านฟิ้นซ์ก็จะชอบระบายสีอยู่แล้วค่ะ และงานศิลปะที่ฟิ้นซ์ชอบมากอีกอย่างก็คือ การเล่นดนตรี ปกติฟิ้นซ์จะเรียนอูคูเลเล่อยู่แล้ว แต่วันนี้ฟิ้นซ์ก็ได้ลองหัดเล่นอังกะลุงกับเพื่อน ๆ ถึงแม้มันจะเล่นต่างกัน แต่เสียงดนตรีมันก็ทำให้รู้สึกสนุก และผ่อนคลายได้ทุกครั้ง ฟิ้นซ์อยากให้เพื่อนหันมาให้ความสำคัญกับศิลปะกันมาก ๆ ค่ะ เพราะนอกจากจะให้เราไม่เครียดแล้ว ยังสามารถช่วยผ่อนคลายความเครียดให้กับคนรอบข้างได้ดีอีกด้วยค่ะ" น้องฟิ้นซ์ กล่าวอย่างสนุกสนาน
ทางด้านสาวน้อยหน้าใสอย่าง น้องบูม หรือ เด็กหญิงเพ็ญพิชชา ภูจอมคา นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนกรพิทักษ์ศึกษา ที่ควงคู่พี่ชาย น้องบอส หรือ เด็กชายวรเมธ ภูจอมคา นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนกรพิทักษ์ศึกษา ก็สนุกสนานและเพลิดเพลินกับการได้ลงมือทำงานศิลปะ โดย น้องบูม เล่าว่า
"ปกติเวลาว่างหนูก็จะชอบระบายสี อย่างการปั้นดินวันนี้หนูได้มีโอกาสปั้นเป็นครั้งแรกค่ะ รู้สึกสนุกมากค่ะ ทำให้เรารู้ว่าของเล่นไม่จำเป็นต้องมีราคาแพง ดิน ก็สามารถนำมาประดิษฐ์ให้เป็นของเล่นได้เหมือนกัน และถึงแม้การปั้นดินจะทำให้มือเราเลอะ แต่หนูว่านี่แหละค่ะคืองานศิลปะ มันทำให้เราเข้าถึงชีวิตในวัยเด็กของคุณพ่อคุณแม่ที่ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ก็สามารถมีความสุขได้ค่ะ" น้องบูม กล่าวอย่างภาคภูมิใจ
น้องบอส กล่าวเสริมว่า
"วันนี้ผมปั้นเป็นหุ่นยนต์ครับ ผมเคยเล่นแต่หุ่นยนต์ที่ประกอบสำเร็จรูปแล้วครับ เลยอยากลองปั้นดูว่ายากแค่ไหนครับ แต่พอปั้นออกมาแล้ว สวย และแข็งแรงดีครับ สำหรับผมถ้าผมมีโอกาสได้ปั้นดินผมใฝ่ฝันอยากปั้นเป็นพระพุทธรูปครับ เพราะผมเคยดูสารคดีเกี่ยวกับการปั้นพระพุทธรูป ทำให้ผมคิดว่าการปั้นหรือวาดพระพุทธรูปนั้น ต้องปั้นด้วยใจน้อมเคารพบูชาและต้องใช้สมาธิ และทำให้จิตใจของเราสงบครับ" น้องบอส กล่าวทิ้งท้าย
ปิดท้ายด้วยสองพี่น้องที่มากด้วยความเก่งและความสามารถ น้องมิ้ลค์ หรือ เด็กหญิง เปรมฤทัย เรืองศิริ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดอุดมรังสี ที่จูงน้องชาย น้องมิน เด็กชายวุฒิจักร เรืองศิริ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนวัดอุดมรังสี มาร่วมแสดงความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นโชว์ อังกะลุง หรือ ระบายสีอย่างสวยงาม กล่าวเพิ่มเติมว่า
"วันนี้หนูและน้องมินสนุกมากค่ะ ได้ทำกิจกรรมหลากหลาย ทั้งศิลปะ และ ดนตรี และได้เรียนรู้การเล่นอังกะลุง ซึ่งหนูไม่เคยเล่นมาก่อน ทำให้รู้ว่า การเล่นดนตรีไม่ยากอย่างที่คิด แค่เขย่าก็ทำให้เกิดเสียงดนตรี วันนี้คุณครูสอนเล่นเพลงช้าง เป็นเพลงง่ายๆ แต่เพราะและสนุกดีค่ะ สุดท้ายก็อยากให้เพื่อนๆ ได้เรียนรู้ศิลปะและดนตรีเพราะจะทำให้เราไม่เบื่อ และมีกิจกรรมร่วมกับเพื่อนๆ ด้วยค่ะ" น้องมิ้ลค์ กล่าวทิ้งท้าย
"ศิลปะ" เป็นความงดงาม และความสุขที่อยู่รายรอบตัวเรา ไม่ต้องไปซื้อหาในราคาแพง หากเราสามารถมองสิ่งรอบกาย และนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ก็จะก่อให้เกิดความงดงามอ่อนโยนในจิตใจได้ไม่ยาก เหมือนกับน้องๆ กลุ่มนี้ที่ได้ใช้เวลาหนึ่งวัน สนุกสนานกับศิลปะที่เกิดขึ้นมาจากธรรมชาติ หล่อหลอมให้เกิดสมาธิและสติปัญญาตามมาในที่สุด
ภาพประกอบสกู๊ป
น้องซัน หรือเด็กชายศักดิพัฒน์ ลิ้มวิจิตรสุข นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พร้อมด้วย น้องฟิ้นซ์ หรือเด็กหญิงณัฐนรี ลิ้มวิจิตรสุข นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนอัสสัมชัญ ธนบุรี
น้องบูม หรือเด็กหญิงเพ็ญพิชชา ภูจอมคา นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนกรพิทักษ์ศึกษา พร้อมพี่ชาย น้องบอส หรือ เด็กชายวรเมธ ภูจอมคา นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนกรพิทักษ์ศึกษา
น้องมิ้ลค์ หรือ เด็กหญิง เปรมฤทัย เรืองศิริ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และน้องชาย น้องมิน เด็กชายวุฒิจักร เรืองศิริ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนวัดอุดมรังสี .
น้อง ๆ ในโครงการฯ ตั้งอกตั้งใจและสนุกสนานไปกับกิจกรรมปั้นดินเป็นนกหวีด
น้อง ๆ ต่างสนุกสนานกับการเรียนรู้ในการเล่นอังกะลุง กับ ครูนาย มานพ วีจำรัส